ด้วยเมื่อวันที่ ๒๔ มิถุนายน ๒๕๖๕ นายโวสิต วรทรัพย์ เอกอัครราชทูต ณ กรุงกาฐมาณฑุ ได้พบหารือกับ นาย Ritesh Kumar Shakya อธิบดีกรมสรรพากร (Inland Revenue Department) ของเนปาล  ตามคำเชิญของนาย Shakya เพื่อขอหารือเกี่ยวกับระบบภาษีธุรกิจบริการดิจิทัล (Digital Service Tax) ที่ใช้ในประเทศไทย เนื่องจากเนปาลประสงค์จะศึกษา Best Practice จากรัฐบาลไทยในเรื่องดังกล่าว โดยกรมสรรพากรเนปาลประสงค์จะส่งคณะผู้บริหารของกรมฯ ไปเยือนไทยเพื่อพบหารือและแลกเปลี่ยนข้อมูลกับผู้บริหารของกรมสรรพากรของไทย เกี่ยวกับระบบภาษีบริการดิจิทัลของไทยเพื่อนำมาปรับใช้ในเนปาล  

ในโอกาสนี้ เอกอัครราชทูตโวสิตฯ ได้อธิบายข้อมูลโดยสรุปแก่นาย Shakya เกี่ยวกับ พรบ. E-Service (พรบ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร ฉบับที่ ๕๓ พ.ศ. ๒๕๖๔) ซึ่งเป็นมาตรการจัดเก็บภาษีใหม่ กำหนดให้ผู้ให้บริการและแพลตฟอร์มต่างประเทศ (ที่มีรายได้มากกว่า ๑.๗ ล้านบาทต่อปี) ต้องจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม จัดเก็บและนำส่งภาษีมูลค่าเพิ่ม จากการให้บริการทางอิเล็กทรอนิกส์แก่ผู้รับบริการในประเทศไทยที่ไม่ใช่ผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม ซึ่งมีผลบังคับใช้ตั้งแต่ ๑ กันยายน ๒๕๖๔